ควันธูป…ศรัทธาที่อันตรายต่อสุขภาพ
การใช้ธูปในการไหว้พระของพุทธศาสนิกชน หรือการใช้เพื่อสักการะบูชาเทพเจ้าก็ดี ล้วนเป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณ แต่ภายใต้ประเพณีที่งดงามดังกล่าว กลับแฝงไปด้วยภัยร้ายจากควันธูป ที่มีความอันตรายไม่แพ้ควันบุหรี่
ธูป มีส่วนประกอบของขี้เลื่อย กาว น้ำมันหอมระเหย เรซิน และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมตลอดจนมีสีและน้ำหอมพอกอยู่บนก้านไม้ เมื่อมีการเผาไหม้ ธูปก็จะมีการปล่อยควันซึ่งประกอบไปด้วยสารต่างๆ ออกมา ได้แก่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซมีเทน จึงไม่ต่างอะไรกับควันพิษ ซึ่งสังเกตได้จากผู้ที่ได้รับควันธูปจะมีอาการระคายเคืองดวงตา มีน้ำตาไหล แสบจมูก เวียนศีรษะ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืดหรือหลอดลมอักเสบ หากสูดดมควันธูปเข้าไปในปริมาณมาก จะทำให้เกิดอาการไอ เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก จนถึงขั้นต้องหามส่งโรงพยาบาลได้ นอกจากนี้ ยังพบสารก่อมะเร็งอีกหลายชนิด เช่น เบนซีน เป็นสารอินทรีย์ที่ระเหยง่าย และส่งผลให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว, บิวทาไดอีน ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งระบบเลือด และ โพลีไซคริกอะโรแมติกไฮโดรคาร์บอน พบว่ามีความสัมพันธ์กับมะเร็งปอด ผิวหนัง และกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมีผลการวิจัยออกมายืนยันแล้วว่า ควันจากธูป 1 ดอก มีความอันตรายเทียบเท่ากับบุหรี่ 1 มวนเลยทีเดียว
เพื่อสุขภาพที่ดี เราจึงควรหลีกเลี่ยงในการสูดดมหรือรับควันธูปเป็นเวลานานๆ สำหรับสถานที่ที่มีการไหว้พระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ควรมีพัดลมดูดอากาศ หรือมีอากาศถ่ายเทสะดวก และควรมีการดับไฟธูปทันทีที่เสร็จสิ้นการบูชา เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันอันตรายจากควันธูปแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาอัคคีภัยได้อีกด้วย