ธรรมชาติของความรัก
เรื่องราวความรักเป็นเรื่องที่ซับซ้อน บางเวลาก็เป็นเรื่องง่ายเหลือเกินที่เราจะเข้าใจคนที่อยู่ข้างตัวเรา แต่บางครั้งมันก็ยากเหลือเกินที่จะเข้าใจในเรื่องง่ายๆ ของเราสองคน บางครั้งความรักก็รู้สึกเบา สบาย พริ้วไหวเหมือนสายลมผ่าน แต่บางทีก็ครึ้มฟ้า ครึ้มฝน เหมือนจะมีพายุ นี่แหละ “ธรรมชาติของความรัก”
มีคำกล่าวว่า “ความรักของคนบางคนเริ่มจะจากร้อยแล้วลดลงเหลือศูนย์ แต่บางคนเริ่มจากศูนย์ไปถึงร้อย” ความรักเริ่มแรกอาจะหอมหวลเหมือนดอกไม้ป่า เหมือนหนังสือที่ยังไม่เคยเปิดอ่าน แต่พอนานไปเมื่อเรารู้เรื่องของกันและกันมากขึ้น ความน่าค้นหาเริ่มลดลง ความเป็นตัวของตัวเองเริ่มปรากฏขึ้น มองเห็นข้อดีและข้อเสียของกันและกันได้อย่างชัดเจน ความหวานที่เคยมีมาเมื่อตอนแรกก็เริ่มลดลง
ความรักเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ทุกครั้งที่เราพยายามที่จะประคับประคองมันมาถึงจุดๆ หนึ่ง แบบทดสอบหลายด่านก็เริ่มเข้ามาหาเรา บททดสอบของแต่ละคู่แตกต่างกันไป บางคนอาจจะเจอกับด่านของความเบื่อ บางคนเจอความไม่เข้าใจกัน บางคนเจอมือที่สาม หลายคนก็แพ้พ่ายต่อบททดสอบเหล่านั้น แต่อีกบททดสอบของความรักที่ผ่านไปยากที่สุด คือ “เวลา” เวลาเป็นทั้งบททดสอบที่ยาวนานและเป็นรางวัลที่ดีที่สุดที่พระเจ้าประทานให้ บททดสอบที่จะพิสูจน์ว่าเราจะจัดการทุกอย่างอย่างไรกับความรักของเรา แต่กลับกันเวลาจะทำให้เรารู้จักความอดทน ความเข้าใจในกันละกัน คนที่สามารถจะให้ให้อภัยเราได้เสมอไม่ว่าเราจะพลาดพลั้งไปแค่ไหน และความเสียสละที่คนข้างกายมอบให้เสมอมา และสุดท้ายเวลาจะเฉลยว่าคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกายในวินาทีสุดท้ายของชีวิตคือใคร
ธรรมชาติของความรักไม่มีอะไรที่แน่นอนหรือตายตัว ก็คล้ายกับธรรมชาติบนโลกนี้ที่ต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เพียงแต่วันหนึ่งรูปแบบความรัก หรือปริมาณความรักที่มีให้กันเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เป็นเพื่อนกับความรักที่สามารถจะช่วยให้ความรักยังอยู่ได้ตราบนานเท่านาน คือ “ความเข้าใจ การให้อภัยและความเสียสละ” หากไม่มีสิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบในธรรมชาติของความรักก็ร่วงโรยไปในสักวันหนึ่ง…