ศาสนาของเราทุกคน
ในโลกที่แสนกว้างใหญ่ของเราใบนี้ มีหลากหลายวัฒนธรรม ประเพณี เชื้อชาติ และศาสนา อยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างมีความเชื่อ คำสอนในรูปแบบที่ต่างกันออกไปตามสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดูจากครอบครัว และการคบหาเพื่อนฝูง ซึ่งหล่อหลอมเราออกให้ออกมามีชีวิต อุปนิสัย และบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ทุกความเชื่อ คำสอน ล้วนมีที่มา บ้างก็จากความผิดพลาดที่สอนให้รู้ถึงความถูกต้อง บ้างก็เกิดจากคำบอกเล่าต่อๆ กันมาจากบรรพบุรุษ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ติดตัวสามารถเลือกที่จะนับถือได้ คือ ศาสนา
ศาสนาอีก ลัทธิ ความเชื่อของเราทุกคนที่นับถือสืบทอดต่อกันมาหลายศตวรรษ ต่างก็มีหลากหลาย แต่ศาสนานั้นก็มีเกิดดับเช่นกัน หากคำสอนและข้อปฏิบัติไม่เป็นที่ยอมรับ หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อน ศาสนาหรือความเชื่อนั้นก็จะถูกกลืนหายไปกับเวลา ศาสนาที่คงอยู่ และนับถือกันส่วนใหญ่ คือ ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งต่างก็มีหลักจริยธรรม คำสอน ข้อปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ ศาสนาพุทธเน้นหลักอริยสัจ 4 มรรค 8 และศีล 5, ศาสนาคริสต์หรือศาสนาแห่งความรัก รักในพระเจ้า รักในเพื่อนมนุษย์ ส่วนศาสนาอิสลามนับถือในพระอัลเลาะห์เพียงองค์เดียว และการปฏิญาณตน แต่เป็นที่แน่นอนว่าทุกศาสนาที่ผู้คนส่วนใหญ่ยอมรับและนับถือ ล้วนแล้วแต่สอนให้ทุกคนเป็นคนดี ละเว้นบาป และที่สำคัญคือ สอนให้อยู่ร่วมกันด้วยความรัก ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
ในทุกวันนี้เราจะเห็นว่าหัวข้อที่ควรหลีกเลี่ยงในวงสนทนาระหว่างเพื่อนสนิท มิตรสหาย มีในเรื่องของศานารวมอยู่ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการโต้เถียง ไม่ว่จะเป็นที่มา คำสอนที่ขัดแย้งกับศาสนาที่ตนเองนับถืออยู่ คำถามคือ ทำไมเราถึงไม่หยิบหัวข้อที่ทุกศาสนาสอนไว้เหมือนกันและปรับความคิดใหม่ว่า “ศานาของเราทุกคน” ล้วนแล้วแต่สอนให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว เพื่อให้ทุกศาสนาอยู่ร่วมบนผืนแผ่นเดียวกันได้อย่างมีความสุข เพราะศาสนาหลากหลายบนโลก ก็ล้วนเป็น “ศาสนาของเราทุกคน”…