Mobility Focus ในองค์กร
ปัจจุบันอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ,แท็บเล็ต ที่มีขีดความสามารถสูงกำลังเป็นที่นิยมของพนักงานในบริษัทที่มีการซื้อหากันมาใช้เพื่อการส่วนตัว และมีการพกพาเข้ามาใช้ในบริษัทมากขึ้น โดยหัวใจของอุปกรณ์พกพาเหล่านี้คือสามารถใช้งานได้ในทุกที่ ทุกเวลา และมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งหากบริษัทให้การสนับสนุนให้มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อหาประโยชน์บนอุปกรณ์เหล่านี้อย่างจริงจัง ก็จะช่วยให้พนักงานสามารถประยุกต์ใช้งานอุปกรณ์พกพาส่วนตัวเหล่านี้เสริมกับงานของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทมีความรวดเร็วในการปฏิบัติการและสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้เป็นอย่างดี
สำหรับในรายละเอียดของ Mobility Focus ผมเน้นลงไปในรายละเอียด 5 ส่วน ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องลงไปศึกษาหรือเป็นส่วนที่ต้องสร้างขึ้นมาในองค์กร ดังนี้
1. People Focus (ทรัพยากรบุคคล)
– Mobility End User ผู้ใช้งานอุปกรณ์ ซึ่งองค์กรอาจจำเป็นต้องมีการสำรวจหรือเปิดโอกาสให้พนักงานลงทะเบียนอุปกรณ์ส่วนตัวเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น การได้รับการ Support และการได้รับคำแนะนำต่างๆ รวมถึงสิทธิ์การใช้ Resource ของบริษัทบนอุปกรณ์ได้ เช่น WiFi ภายในอาคารต่างๆ
– Mobility Support เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมให้มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาและสามารถตั้งค่าต่างๆ ในอุปกรณ์เคลื่อนที่พิเศษเหล่านี้ได้
– Mobility Developer กลุ่มนักพัฒนาโปแกรมบนระบบปฏิบัติการ IOS, Andriod, Windows Mobile ซึ่งอาจจะเป็นโปรแกรมแบบง่ายๆ แต่ช่วยเสริมความคล่องตัวในการเรียกใช้งาน Web Application ที่มีในองค์กรให้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น
– Mobility Analyst บุคคลที่ต้องทำหน้าที่วิเคราะห์การใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่พิเศษในองค์กรในระดับแนวกว้างและแนวลึก เช่น จากผลสำรวจอุปกรณ์ส่วนตัวของนักบินพบว่ามีการใช้งาน iPhone เป็นจำนวนมาก Mobility Analyst อาจจะต้องลงไปศึกษาค้นขว้าหา Apps ที่ซึ่งหากนักบินมีไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวแล้วจะสามารถช่วยให้นักบินปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ผลลัพธ์แล้วเสนอแก่ตัวแทนกลุ่มนักบินหรือหน่วยงานในลำดับถัดไป หรือ อาจจะมีการสร้างจดหมายข่าวหรือคอนเทนต์ที่มีประโยชน์เพื่ออัพเดทความเคลื่อน ไหวแก่ Mobility End User, Mobility Support, Mobility Developer
2. Hardware Focus (อุปกรณ์)
– Smart Phone, Tablet เนื่องด้วยอุปกรณ์เหล่านี้มีความคล่องตัวสูงและจุดประสงค์การใช้งานต่างจาก Desktop อย่างชัดเจน ซึ่ง Notebook ยังมีความใกล้เคียงกับ Desktop อยู่ ไม่ว่าจะเป็น OS หรือ App ซึ่งไม่ต่างจาก Desktop มากนักและการใช้งานยังคงต้องหาที่วางอุปกรณ์และนั่งใช้งาน สิ่งที่เพิ่มมาสำหรับ Notebook คือความสะดวกในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์เท่านั้น ซึ่งแตกต่างไปจาก Smart Phone และ Tablet กล่าวคือ อุปกรณ์เหล่านี้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ในขณะที่เดินหรือยืนอยู่ซึ่งมีความ คล่องตัวสูงมาก
3. Software Focus (ซอฟแวร์)
– OS for Mobile ระบบปฏิบัติการที่ควบคุมอุปกรณ์ Smart Phone และ Tablet เช่น IOS , Android, Windows Mobile หรือ Windows 8
– Apps for Business แอพพลิเคชั่นธุรกิจบนอุปกรณ์ Smart Phone และ Tablet ซึ่งอาจจะทำการพัฒนาขึ้นเอง หรือ ค้นหาใน App Store
4. Communication Focus (การสื่อสารข้อมูล)
– Intranet หากอุปกรณ์เคลื่อนที่อยู่ภายในบริษัทก็สามารถเชื่อมต่อผ่าน WiFi ของบริษัทได้ทันที ซึ่งอาจต้องมีการระบุหมายเลขเครื่องพร้อมกับรหัสพาสเวิด
– Extranet หากอุปกรณ์เคลื่อนที่อยู่ ภายนอกบริษัทก็สามารถใช้บริการ 3G/EDGE/GPRS หรือ Public WiFi จากผู้ให้บริการภายนอก แล้วทำการเชื่อมต่อกับระบบ SSL VPN ของบริษัทสำหรับเข้าถึงข้อมูลและระบบต่างๆ ภายในบริษัทได้
5. Security Focus (ความปลอดภัย)
– Rule & Procedure นอกจากการใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่จะมีความสะดวกแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงอย่างสูงคือเรื่องความปลอดภัย ซึ่งจำเป็นต้องมีการกำหนดมาตราการต่างๆ สำหรับควบคุม
หากองค์กรให้ความสำคัญกับ Mobility Focus อย่างจริงจัง ผมเชื่อว่าในอนาคตธุรกิจของบริษัทจะมีความรวดเร็วในการปฏิบัติการและสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้เป็นอย่างดี